Golang 101 🐹

Let's study GO together

ref: https://www.dropbox.com/sh/is3hwdqa1dpsb99/AACb9QvxPEUo1Z-tD0Nz2KNZa?dl=0

History

2007 Google เจอว่าต้อง Compile Code หลักล้าน บรรทัด กว่าจะ Test ได้รอกันยาวว
Robert Griesemer, Rob Pike และ Thompson 🧑🏻‍💻ก่อให้เกิด "GO" ขึ้นมา ซึ่งความดีงามของ GO มีดังนี้
- Fast compilation
- Less cumbersome code
- Unused memory freed automatically (garbage collection)
- Easy-to-write software software that does several operations simultaneously (concurrency)
- Good support for prosessors with multiple cores

Let's get start

เริ่มกันที่ มาดู Overview file structure เค้่าหน้าตาเป็นไงก่อน

package main

📦 ตรงเป็นการบอกว่า code ทุกส่วนที่นั้นเป็นส่วนนึงของ Package ที่ชื่อ "main" ธรรมชาติของ GO จะต้องประกาศ package ไว้เพื่อบอกให้ compiler รู้ว่าจะ Execute ตรง file นี้

import "fmt"

📚เรา Import Library มาใช้เพิ่มเติมได้ ตรงนี้บอกว่าเราจะใช้อะไรบางอย่าง จาก "fmt" package

func main() {
    fmt.Println("Thor say, Greeting GO ")
}

💻 ตัวอย่าง function main ตรงนี้เมื่อเราสร้าง function ที่ชื่อ main ไว้ นี่จะเป็นสิ่งแรกที่ถูก Run fmt.Println = เราดึงเอา function "Println" จาก Package fmt มาใช้ ซึ่ง function นี้ จะแสดงผลว่า "Thor say, Greeting GO"

Export name

เนื่องจาก GO มีความเป็น Package ดังนั้น ถ้าอยู่คนละ Package กันการเรียกใช้ function จะต้องเป็นตัวใหญ่ แบบนี้ เราเรียก function Pi จาก Package math

fmt.Println(math.Pi)

Function

ทีนี้เราก็มาดูวิธีการ Declare function

package main

import "fmt"

func add(x int, y int) int {
    return x + y
}

func main() {
    fmt.Println(add(12, 14))
}

ตรง function add เราจะมี Parameter X และ Y ที่มี Type เป็น Int และค่าที่จะ Return ก็มี Type เป็น Int เช่นกัน

ส่วน Main ก็คือส่วน เรียก function add ที่เราเขียนไว้มาใช้งาน

💡Function ถ้ามี return type เดียวกัน ยุบเป็นแบบนี้ได้เลย

func add(x, y int) int {
    return x+ y
}

Multiple result

👫เจ้า GO สามารถ return ค่าออกจาก function ได้มากกว่า 1 ค่า

func swap(x, y int) (int, int) {
	return y, x
}

Named return

ถ้าเรา กำหนด function signature ไว้แล้วตรง บรรทัดแรก ตอน return ต่อให้ไม่บอกว่า Return อะไร Go จะรู้ว่า เราต้องการจะ return อะไร

func declare() (xx int, yy int) {
	xx = 100
	yy = 200
	return
}

Variable

variable ใน Go สามารถประกาศได้ 2 แบบ

Variable var something = "Thoritie"
Short Variable somthing := "Shorter one"

Basic Type

bool - Boolean
string - String
int etc.
byte - มีค่าเท่ากับ uint8
rune - เก็บข้อมูลในรูปแบบ unicode
float32, float64
complex64, complex128

Zero Value

0 for numaric type
false for boolean
"" empthy string for strings

Type Inference

เราไม่จำเป็นต้องประกาศประเภทของ Variable ก็ได้ ในจังหวะที่ Compile Go จะบอก Type ให้เอง

func main() {
    v := 42
    fmt.Printf("v is type of %T\n", v)
}

Constant

ค่าคงที่ ต้องประกาศ Capitalize เหมือน Export

func main() {
   	const Pi = 3.14
    fmt.Println(Pi)
}

For loop

Example: Loop

Switch

Example: Switch Case

If Case

Example: If Case

Defer

Defer จะเป็นเหมือน statement ที่ประกาศเอาไว้ตอนไหนก็ได้ แต่จะถูกทำตอนสุดท้ายเสมอ เราทำแบบนี้เพื่อทำให้ context ของการทำงานยังอยู่ด้วยกัน

TBD...

Thoritie/lets-go